PM2.5 ภัยเงียบคร่าสุขภาพสัตว์เลี้ยง! เช็กสัญญาณอันตรายและ 4 วิธีป้องกันที่เจ้าของต้องรู้ - Arak Animal Hospital

ฝุ่น PM2.5 กับสุขภาพสัตว์เลี้ยง

ผู้เขียน : สพ.ญ. พรปวีณ์ ธนรัตน์สุทธิกุล

ปัจจุบัน “ฝุ่น PM2.5” กลายเป็นปัญหาด้านคุณภาพอากาศที่พบได้แทบตลอดปีในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่มีค่าฝุ่นสูงดังที่เราเห็นในข่าว PM2.5 หนาแน่นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมว ที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากฝุ่นได้ด้วยตัวเองเหมือนกับเรา

ฝุ่น PM2.5 คืออะไร? ทำไมถึงอันตรายต่อสุนัขและแมว

PM2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กมาก เล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าปอด ซึมผ่านผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือด ฝุ่นนี้สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองแบบเฉียบพลัน เห็นอาการได้ภายใน 1-2 วัน ซึ่งส่วนมากจะเกิดกับระบบทางเดินหายใจ และแสดงอาการโดยการ ไอ จาม มีเลือดกำเดาไหล และผิวหนังเป็นผื่นแพ้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในมนุษย์ที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังในระยะยาวได้ เช่น โรคหลอดเลือดตีบ โรคมะเร็งปอด และยังเข้าสู่รกทำให้มีปัญหาคลอดก่อนกำหนดได้

ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อระบบหายใจของสัตว์เลี้ยง เช่น ภาวะหอบหืดในแมว

สำหรับผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง แม้จะยังมีการศึกษาที่ไม่มากเทียบเท่ากับคนเรา แต่ก็เริ่มมีรายงานความเกี่ยวข้องของฝุ่น PM 2.5 กับอัตราการการเกิดโรคทางเดินหายใจที่มากขึ้น โดยเฉพาะ ภาวะหอบหืดในแมว (feline asthma) และ ภาวะหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง (chronic bronchitis)

สัญญาณอันตรายที่บอกว่าสัตว์เลี้ยงอาจได้รับผลกระทบจาก PM2.5

ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อระบบหายใจของสัตว์เลี้ยง เช่น ภาวะหอบหืดในแมว

  1. ไอเรื้อรัง ไอมีเสียงเหมือนติดคอ
  2. หายใจลำบาก มีเสียงหวีด หรือมีเสียงดัง หายใจเร็วผิดปกติ
  3. น้ำมูกไหล จามบ่อย หรือ มีเลือดกำเดาไหล
  4. ดวงตาแดง ระคายเคือง หรือมีขี้ตามาก
  5. มีผื่นแดง คัน ผิวแดง ผิวหนังอักเสบ

สายพันธุ์สัตว์เลี้ยงหน้าสั้นที่เสี่ยงต่อ PM2.5 เช่น ปั๊ก บูลด็อก ชิสุ เปอร์เซีย

ในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น ลองสังเกตอาการเหล่านี้ หากสัตวเลี้ยงแสดงอาการดังกล่าว ควรระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก บูลด็อก ชิสุห์ และแมวเปอร์เซีย จะมีความเสี่ยงต่อฝุ่น PM2.5 และมลพิษในอากาศสูงกว่าสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่น ๆ ทั่วไป ถ้าเจ้าของสังเกตว่าน้องหมาน้องแมวเริ่มมีปัญหาจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน แนะนำให้พามาพบสัตวแพทย์

มีหน้ากากอนามัยสำหรับสุนัขและแมวหรือไม่?

ต้องตอบว่ามี แต่ยังไม่มีผลการพิสูจน์เลยว่า การใส่หน้ากากอนามัยให้สัตว์เลี้ยง สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ และด้วยโครงหน้าของสุนัขและแมวแต่ละสายพันธุ์นั้นแตกต่างกัน จึงเป็นการยากมากที่จะหาหน้ากากอนามัยที่มีขนาดพอดี ซ้ำยังอาจก่อให้เกิดความรำคาญ และยังทำให้หายใจได้ลำบาก เพิ่มความเครียดให้น้องหมาน้องแมวด้วย

ดังนั้นการที่จะช่วยป้องกันสัตว์เลี้ยงจาก PM2.5 ต้องอาศัยการดูแลด้านอื่นๆ

  1. งดพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านในวันที่ค่าฝุ่นสูง
  2. ใช้เครื่องฟอก HEPA Filter อากาศในบ้าน
  3. เช็ดตัว–เช็ดอุ้งเท้าทุกครั้งหลังออกนอกบ้าน
  4. อาบน้ำ–บำรุงผิวหนังอย่างถูกวิธี เพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวหนัง เช่น ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือสูตรรักษาผิวหนัง เสริมกรดไขมันทั้งแบบกิน หรือแบบหยดหลังตามสัตวแพทย์แนะนำ

 

เวลาเปิดให้บริการของแต่ละสาขา 

  • สาขาทองหล่อ (กรุงเทพฯ)
    เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง  
    โทรศัพท์ 02-106-9977
     

  • สาขาหลังสวน (กรุงเทพฯ)
    เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง  
    โทรศัพท์ 02-106-9970
     

  • สาขาเพชรเกษม (กรุงเทพฯ)
    เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 24.00 น. 
    โทรศัพท์ 02-106-9973
     

  • สาขาเชียงใหม่
    เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง  
    โทรศัพท์ 02-106-9971
     

  • สาขาภูเก็ต
    เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 22.00 น. 
    โทรศัพท์ 02-106-9972

สอบถามเพิ่มเติม และนัดหมาย

แชร์