การเตรียมตัวสัตว์เลี้ยงสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ
การเตรียมสัตว์เลี้ยงสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ
การเดินทางกับสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศอาจทำให้เจ้าของหลายท่านรู้สึกเป็นกังวล ด้วยเอกสารที่ต้องเตรียมมากมาย บทความนี้จะช่วยแบ่งขั้นตอนการเตรียมตัวและการเดินทางออกเป็น 3 ขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อให้การเดินทางกับเจ้าสี่ขาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
- การเตรียมสัตว์เลี้ยง
- ช่วงเวลารอดำเนินการ
เอกสารก่อนการเดินทางและเอกสารการส่งออก
การเตรียมสัตว์เลี้ยง
ขั้นตอนที่ 1: การฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยง
ขั้นตอนแรกในการเตรียมสัตว์เลี้ยงของคุณสำหรับการเดินทางคือลงทะเบียนไมโครชิปที่เป็นไปตามมาตรฐาน ISO ไมโครชิปขนาดเล็กประมาณขนาดของเมล็ดข้าวถูกฝังใต้ผิวหนังและส่งสัญญาณหมายเลข 15 หลักที่ไม่ซ้ำกันให้กับเครื่องสแกน ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายการระบุตัวตนอย่างถาวร
- การฝังไมโครชิปนี้รวดเร็วและคล้ายกับการฉีดยาทั่วไป เพียงเเต่เข็มอาจจะใหญ่สักหน่อย
- สามารถทำได้ตั้งเเต่พาสัตว์เลี้ยงมาพบสัตว์แพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนครั้งแรก หรือ ฝังได้ภายหลังในสุนัขเเละเเมวที่มีสุขภาพที่ดี
หากมีแผนที่จะทำหัตถการที่ต้องใช้ยาสลบอยู่เเล้ว เช่น ทำหมัน หรือ ขูดหินปูน อาจเเจ้งสัตวเเพทย์เพื่อทำการฝังไมโครชิป สามารถฝังไมโครชิปในเวลาเดียวกันได้เพื่อความสะดวกเเละลดความเจ็บในช่วงฝัง
ขั้นตอนที่ 2: การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
หลังจากฝังไมโครชิปแล้ว หลายประเทศต้องการให้สัตว์เลี้ยงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แม้ว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
- การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสามารถทำได้ในวันเดียวกับการฝังไมโครชิป
แนะนำให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัคซีนอื่น ๆ ของสัตว์เลี้ยงยังอยู่ในสถานะที่พร้อมเพื่อป้องกันโรคให้สัตว์เลี้ยงในระหว่างการเดินทางและเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของประเทศปลายทาง
ขั้นตอนที่ 3: การทดสอบระดับแอนติบอดีของโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies Titer Test)
การตรวจระดับแอนติบอดีของโรคพิษสุนัขบ้าในเลือด เป็นการตรวจที่หลายประเทศกำหนดเพื่อยืนยันการมีภูมิคุ้มกันต่อโรคพิษสุนัขบ้า
- การทดสอบต้องทำอย่างน้อย 30 วันหลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
- ที่โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ เรามีบริการทดสอบระดับแอนติบอดีของโรคพิษสุนัขบ้าผ่านสองห้องปฏิบัติการ ได้แก่ สถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์แห่งชาติ (ประเทศไทย) และ Biobest (สหราชอาณาจักร) การเลือกห้องปฏิบัติการขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง
- ผลการทดสอบมักใช้เวลา 30–45 วัน
บางประเทศยอมรับผลการทดสอบระดับแอนติบอดีของโรคพิษสุนัขบ้าตลอดชีวิตของสัตว์เลี้ยง หากยังมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างสม่ำเสมอทุกปี เเต่บางประเทศอาจกำหนดให้ต้องมีการทดสอบในช่วงหนึ่งหรือสองปีที่ผ่านมา
ช่วงเวลากักตัว
เมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณผ่านการทดสอบระดับแอนติบอดีของโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว หลายประเทศมีการกำหนดระยะเวลากักตัวของสัตว์เลี้ยง ก่อนที่จะสามารถเดินทางได้ โดยเริ่มจากวันที่เก็บตัวอย่างเลือด:
- EU, UK, และ USA: โดยปกติจะต้องรอเป็นระยะเวลา 90 วัน
- ญี่ปุ่น: อาจต้องรอถึง 180 วัน
ถึงเเม้การรอคอยจะดูเสียเวลา เเต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีในการ:
ตรวจทานเอกสารให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง
ตรวจสอบว่าประเทศปลายทางต้องการเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น:
- ใบอนุญาตนำเข้า
- การจองเพื่อเข้ากักกันเมื่อถึงปลายทาง
- หลักฐานการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง
- ฝึกสัตว์เลี้ยงให้คุ้นเคยกับการเดินทาง
- ฝึกให้สัตว์เลี้ยงของคุณรู้สึกสบายใจ ตอนอยู่ในกรงหรือกระเป๋าสำหรับเดินทาง การทำให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการเดินทางสามารถลดความวิตกกังวลในระหว่างการเดินทาง
ไม่แนะนำให้ใช้ยานอนหลับในการเดินทาง เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีการดูแลทางการแพทย์
3. เอกสารก่อนการเดินทางและเอกสารการส่งออก
สัปดาห์ก่อนการเดินทางของคุณเป็นช่วงเวลาสำคัญในการทำขั้นตอนสุดท้าย:
การถ่ายพยาธิ: บางประเทศ โดยเฉพาะใน EU ต้องการให้ถ่ายพยาธิในสัตว์เลี้ยง 1–3 วันก่อนการเดินทางถึงประเทศปลายทาง
ใบรับรองสุขภาพ ขอใบรับรองสุขภาพจากสัตว์แพทย์ ซึ่งโดยปกติจะรวมถึง:
- ชื่อ ที่อยู่ และรายละเอียดการติดต่อของเจ้าของ
- ชื่อ อายุ เพศ สี และหมายเลขไมโครชิปของสัตว์เลี้ยง
- ประวัติการฉีดวัคซีน
- การประกาศว่าสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพพร้อมสำหรับการเดินทาง
ในบางกรณี ใบรับรองนี้อาจต้องได้รับการรับรองจากสัตว์แพทย์ทางการของประเทศปลายทาง และสามารถทำได้เมื่อยื่นขอใบอนุญาตส่งออก
ใบอนุญาตส่งออก ก่อนการเดินทาง เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องขอใบอนุญาตส่งออกจากสถานีตรวจสอบสัตว์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยการตรวจสุขภาพและการตรวจสอบเอกสารจะต้องทำการยื่นเอกสารด้วยตนเอง
เมื่อไร: 1–5 วันก่อนการเดินทาง
ที่ไหน: สถานีตรวจสอบสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์–วันศุกร์ เวลา 8:30–12:00 และ 13:00–15:30 (ปิดในวันหยุดนักขัตฤกษ์)
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทร 02 134 0731 (บริการเป็นภาษาไทยและอังกฤษ)
เอกสารที่ต้องใช้:
- หนังสือเดินทางของเจ้าของสัตว์เลี้ยง
- ใบรับรองไมโครชิป
- หลักฐานการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า
- ใบรับรองสุขภาพ (ขึ้นกับประเทศปลายทาง)
- ผลการทดสอบระดับแอนติบอดีต่อพิษสุนัขบ้า (ขึ้นกับประเทศปลายทาง)
อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะเห็นเเล้วว่า การพาสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศนั้นค่อนข้างมีขั้นตอนที่วุ่นวายและซับซ้อนพอสมควรเลยทีเดียว โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ มีบริการเตรียมความพร้อมเเละให้คำปรึกษา เพื่อให้การพาเจ้าขนฟูไปเที่ยวในครั้งนี้ เป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ
