รู้จักกับโรคภูมิแพ้ผิวหนังในสุนัข - Arak Animal Hospital

รู้จักกับโรคภูมิแพ้ผิวหนังในสุนัข

ผู้เขียน : สพ.ญ. พรปวีณ์ ธนรัตน์สุทธิกุล

รู้จักกับโรคภูมิแพ้ผิวหนังในสุนัข

          สุนัขเป็นโรคภูมิแพ้ได้เหมือนกับคน เพียงแต่อาการของโรคภูมิแพ้ในคนมักจะแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ คือ การจาม, มีน้ำมูกและน้ำตา แต่ในสัตว์เลี้ยงนั้นจะแสดงออกทางผิวหนังเป็นหลัก โดยภูมิแพ้ในสุนัข แบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ

 

  1. ภูมิแพ้ต่อน้ำลายแมลง (Insect Hypersensitivity)

          เกิดจากการสัมผัสน้ำลายของแมลงไม่ว่าจะเป็น หมัด เห็บ และยุง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อย เนื่องจาก เห็บ หมัด และ ยุง นั้นเป็นของคู่กันกับประเทศไทย   สัตว์เลี้ยงที่เป็นจะแสดงอาการคัน โดยเฉพาะบริเวณกลางหลังถึงสะโพก และมักจะพบขนร่วงเนื่องจากการที่การกัดและถูตัวเองกับฝาผนัง แต่ถ้าเกิดจากยุงกัดส่วนที่มักพบบ่อยๆคือ จมูก รอบตา ใบหู และส่วนที่ไม่ค่อยมีขน เช่นขาหนีบ เป็นต้น

Distribution of skin lesions and pruritus associated with FAD. Acute lesions: Erythematous macules, papules, crusted papules, hot spots. Chronic lesions: Self-induced alopecia, lichenification, and hyperpigmentation
(ตำแหน่งผิวหนังอักเสบที่พบบ่อยในสุนัขที่แพ้น้ำลายแมลง : Hensel et al., 2015)

 

  1. ภูมิแพ้สิ่งสัมผัส (Contact allergic dermatitis)

          พื้นผิวสัมผัส หรือ สารที่อยู่ตามสิ่งของสามารถก่อโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ เช่น ปูนซีเมนต์ คอนกรีต ยางพารา หรือ อุปกรณ์สารเคมีทำความสะอาด โดยจะพบอาการหลังจากการสัมผัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะแสดงอาการคันรุนแรง มีผื่นแดง ขนร่วง ซึ่งบริเวณที่พบบ่อย คือ บริเวณฝ่าเท้า หน้าท้อง ข้อศอก เนื่องจากน้องหมาชอบนอนในท่าไก่ย่างนั่นเอง

 

  1. ภูมิแพ้อาหาร (Food allergy)

          การแพ้อาหารนั้นแพ้ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโปรตีนเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลา ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ไก่ หรือ คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ข้าวสาลี มันฝรั่ง หรือแม้กระทั่ง ผักและผลไม้ต่างๆ รวมถึงอาจแพ้สารเสริมในอาหาร (Food additive) เช่น สารกันบูด สารปรุงแต่งสี กลิ่นและรสด้วย  

ภูมิแพ้ละอองอากาศ (Atopy/Atopic dermatitis)

          โรคภูมิแพ้เกี่ยวกับการสูดดมหรือสัมผัสละอองสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมผ่านทางผิวหนัง เช่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา ฝุ่นบ้าน และสารที่ล่องลอยในอากาศอื่นๆ ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง

 

          ภูมิแพ้อาหารและภูมิแพ้ละอองในอากาศ ถือเป็นกลุ่มโรคภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุดในสุนัข โดย สุนัขสามารถเป็นภูมิแพ้อาหาร หรือ ละอองในอากาศแค่อย่างเดียว หรือ บางตัวก็สามารถเป็นร่วมกันทั้งสองอย่างก็ได้

 

รู้ได้อย่างไรว่าสุนัขของเราเป็นโรคภูมิแพ้ 

         ในทางสัตวแพทย์นั้นจะมีตัวบ่งชี้ว่าสุนัขตัวนี้มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ โดยใช้หลักการเรียกว่า Favrot Diagnostic Criteria ดังนี้

  1. อาการเริ่มต้นเมื่ออายุน้อยกว่า 3 ปี
  2. ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในตัวบ้าน (Indoor life)
  3. เริ่มแสดงอาการคัน เลีย เกา โดยยังไม่พบความผิดปกติที่ผิวหนัง
  4. เลียเท้าหน้าบ่อย เท้าหน้าอักเสบ
  5. ใบหูแดง หูอักเสบบ่อยครั้ง
  6.  ไม่พบรอยโรคที่ขอบใบหู
  7. ไม่พบรอยโรคบริเวณหลังท้ายลำตัว

          โดยถ้าสุนัขมีอาการ 5 ข้อขึ้นไป มีโอกาสที่จะเป็นภูมิแพ้ มากกว่า 70% และหากพบอาการมากกว่า 6 ข้อก็มีโอกาสมากกว่า 90% ที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ

 

         ในช่วงแรกๆของโรคภูมิแพ้ สุนัขจะแสดงอาการคันเพียงอย่างเดียว ทำให้เจ้าของบางท่านอาจไม่ทันได้สังเกต แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะเริ่มปรากฏรอยโรคที่ผิวหนังขึ้น โดยโรคภูมิแพ้อาหารและภูมิแพ้ละอองในอากาศ จะมีลักษณะคล้ายกันมาก คือ มีอาการคัน เกา เลียขนร่วง ผิวหนังแดงโดยเฉพาะบริเวณหน้า รอบปาก รอบตา เท้าทั้ง 4 ข้าง และ หูอักเสบบ่อยครั้ง

(ตำแหน่งผิวหนังอักเสบที่พบบ่อยในสุนัขแพ้อาการและละอองในอากาศ :AAHA., 2023)

 

 

วิธีการตรวจภูมิเเพ้ในสุนัข     

          วิธีการที่จะแยกว่าสุนัขแพ้อาหาร หรือ อากาศนั้น วิธีที่แม่นยำมากที่สุด คือ การทำการทดสอบด้วยวิธี  Food Restriction and Food challenge ด้วยการกินอาหารสูตร Hypoallergenic ที่ทำให้เกิดการแพ้น้อย หรือหากเลือกใช้ Home cook ก็จะต้องให้ Novel protein and novel carbohydrate คือให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตไม่เคยกินมาก่อน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์ ที่สำคัญมากๆคือเจ้าของต้องใจเข็ง ห้ามให้อาหารอื่นๆเลยในช่วงทำการทดสอบนี้ ซึ่งถ้าหากน้องหมามีอาการแพ้อาหารจริง อาการผิดปกติทางร่างกายต่างๆ เช่น ผื่นแพ้ รอยแดง หรืออาการคันตามที่ต่างๆ ก็จะลดลงในระหว่างที่ทำการทดสอบ หลังจากนั้นเราจึงจะค่อยมาทดสอบกันอีกครั้งว่าน้องแพ้อาหารชนิดใด

          แต่ถ้าทำ Food Restriction จนครบ 8 สัปดาห์แล้ว สุนัขยังมีอาการทุกอย่างเหมือนเดิม แสดงว่าน้องไม่ได้แพ้อาหาร แต่เป็น ภูมิแพ้ละอองในอากาศค่ะ ซึ่งการที่จะตรวจว่าน้องแพ้อะไรนั้น มี 2 วิธีคือ

  1. การทำ Skin test (Intradermal skin test) เป็นวิธีที่แม่นยำมากที่สุด โดยจะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าที่ชั้นผิวหนังของสุนัขโดยตรง และ ตรวจวัดระดับของการแพ้ ใช้ระยะเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็จะทราบผลแล้ว แต่มีข้อเสียเดียวคือ โดยมากมักต้องวางยาซึมในการตรวจ จึงต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนและ มีวิสัญญีคอยดูแลให้ปลอดภัยที่สุดระหว่างการวางยา
  2. การเจาะเลือดตรวจ (Serology test) ซึ่งมีการส่งทั้งในและต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ใช้การเก็บเลือดเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องรอผล 1-2 เดือน และ แน่นอนว่าความแม่นยำก็จะน้อยกว่าการตรวจ Skin test ที่เป็น Gold standard ของการตรวจภูมิแพ้ละอองในอากาศค่ะ

A collage of people in medical gowns

AI-generated content may be incorrect.

         

      เมื่อทราบแล้วว่าน้องแพ้สารก่อภูมิแพ้ตัวไหน ก็ต้องจัดการหลีกเลี่ยงให้สัมผัสสารนั้นๆน้อยที่สุด แต่หากแพ้สิ่งที่หลีกเลี่ยงยาก เช่นไรฝุ่น หรือ ละอองหญ้าต่างๆ ก็สามารถเลือกนำมาทำเป็นวัคซีนภูมิแพ้ (Allergy shot; Immunotherapy) ได้ต่อไปค่ะ

         

      ถึงแม้โรคภูมิแพ้ในสุนัขจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สร้างความรำคาญแก่สุนัข และ เจ้าของมากทีเดียว หากเจ้าของสงสัยว่าน้องหมาของเรา เข้าข่ายจะเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ ต้องตรวจภูมิแพ้หรือยัง ก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ศูนย์โรคผิวหนังและภูมิแพ้ โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ค่ะ

 

 

สอบถามเพิ่มเติม และนัดหมาย

แชร์

Copyright © 2023 Arak Animal Hospital | All Rights Reserved