
MRI สัตว์เลี้ยงคืออะไร? ตรวจอะไรได้บ้าง ต่างจาก CT-Scan อย่างไร
MRI (Magnetic Resonance Imaging)
คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยวินิจฉัย ด้วยการทำให้เกิดภาพของอวัยวะภายในร่างกาย ได้แก่ สมอง ไขสันหลัง เส้นประสาท เส้นเอ็นข้อต่อ และอวัยวะในช่องท้อง โดยใช้หลักของการเปลี่ยนแปลงพลังงานของไฮโดรเจนอะตอมภายในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นอุปกรณ์นี้จึงต่างจาก CT scan ตรงที่ MRI ไม่ได้ใช้สารกัมมันตรังสี
ความแรงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า มีผลต่อการสร้างภาพที่เกิดขึ้นด้วย โดยยิ่งมีความแรงสนามแม่เหล็กสูง (1.5 เทสลาขึ้นไป) ยิ่งให้รายละเอียดของเนื้อเยื่อดีกว่าความแรงสนามแม่เหล็กต่ำ
เครื่อง MRI ตามโรงพยาบาลสัตว์ มักมีความแรงตั้งแต่ 0.2 เทสลา ส่วนในโรงพยาบาลคนและโรงเรียนสัตวแพทย์จะใช้ความแรงที่ 1.5-3.0 เทสลา ขึ้นไป
ซึ่ง MRI ที่อารักษ์ คือ MRI 1.5 tesla เรียกได้ว่าเป็น MRI แบบ high-field MRI ที่จะให้ภาพที่มีความละเอียดสูง
ที่ถึงแม้เป็นเพียงรอยโรคเล็กๆ
นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ที่ช่วยย่นระยะเวลาการวินิจฉัยลงไปถึง 30 นาที ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของ MRI เครื่องนี้ ส่งผลให้ระยะเวลาการวางยาสลบของสัตว์ลดลงไปด้วย จึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์ยิ่งขึ้น
โดยการเลือกใช้ CT scan หรือ MRI ขึ้นอยู่กับโรคที่สงสัยลักษณะภาพที่ต้องการ รวมถึงสุขภาพของสัตว์ป่วย เพื่อให้ได้วิธีการตรวจที่เหมาะสมที่สุด
ความแตกต่างระหว่างการทำ CT scan และ MRI ในสัตว์เลี้ยง
แม้ว่าอวัยวะที่ตรวจจะเป็นอวัยวะเดียวกัน แต่ลักษณะของภาพและรายละเอียดจะแตกต่างกัน ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะใช้ CT scan หรือ MRI ในการตรวจ จึงขึ้นอยู่กับโรคที่สงสัยว่าอุปกรณ์ใดจะให้ผลการตรวจตรงตามที่ต้องการ และยังต้องคำนึงถึงสุขภาพของสัตว์ป่วยร่วมด้วย
การเตรียมตัวก่อนพาสัตว์เลี้ยงไปทำ MRI
เนื่องจากสัตว์ป่วยต้องนอนนิ่งๆอยู่ในอุโมงค์ MRI และใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 นาทีในการตรวจอวัยวะหนึ่ง จึงจำเป็นต้องวางยาสลบด้วย ดังนั้นการเตรียมตัวก็จะคล้ายกับการเตรียมตัวก่อนวางยาสลบเพื่อผ่าตัดได้แก่ การตรวจสุขภาพดูความพร้อม และการงดน้ำอาหารก่อนวางยาสลบ
มักจะใช้ MRI ในการตรวจโรคอะไรในสัตว์เลี้ยงบ้าง
MRI เป็น modality of choice ในการตรวจโรคทางระบบประสาทส่วนใหญ่ เพราะสามารถช่วยให้เห็นโครงสร้างของเนื้อสมองและไขสันหลังได้ชัดเจนกว่า CT scan
โรคทางสมอง: สมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เลือดออกในสมอง เส้นเลือดในสมองอุดตัน เนื้องอกในสมอง โรคของโพรงน้ำในสมอง สมองฝ่อ การบาดเจ็บของสมอง สมองบวม เป็นต้น
โรคของไขสันหลัง: โรคของโพรงน้ำในไขสันหลัง โรคหมอนรองกระดูกชนิดต่างๆ เลือดออกในไขสันหลัง เส้นเลือดอุดตันในไขสันหลัง ไขสันหลังอักเสบ เนื้องอกภายในเนื้อของไขสันหลัง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บางกรณี CT scan อาจให้รายละเอียดชัดเจนกว่า MRI ตัวอย่างเช่น โรคของกระดูกสันหลัง ปัญหาของโครงสร้างกระโหลกศีรษะ และกระดูกหูชั้นกลาง รวมถึงโรคในช่องอกและช่องท้อง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ต้องได้รับการตรวจโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ว่าควรใช้อุปกรณ์ใดในการตรวจต่อไป หรืออาจจะต้องใช้ควบคู่กันทั้งสองอุปกรณ์ เพื่อวิเคราะห์ทั้งส่วนของเนื้อสมองไขสันหลังและโครงสร้างกระดูก ไปพร้อมๆกัน
ค่าใช้จ่ายในการตรวจ MRI
MRI จะเริ่มต้นที่ 23,000 บาท ซึ่งจะรวม
ค่าแพทย์ MRI, ค่าแพทย์อ่านผล, ค่าแพทย์วิสัญญี และค่าวางยาสลบแล้ว
หากคุณเจ้าของที่กังวลว่าน้องหมา น้องแมวที่บ้านจะเป็นโรคที่ต้องการตรวจด้วยเครื่อง MRI หรือ CT-Scan หรือไม่ สามารถพาน้องมาตรวจเบื้องต้นโดยคุณหมอโรคระบบประสาท และกระดูกสันหลันหลัง ได้ในราคาเพียง 750 บาก
โดยสามารถอ่านรายละเอียการตรวจเพิ่มเติuได้ที
https://arakanimal.com/packages/Neuro-Screening