.jpg)
สิ่งควรรู้เมื่อสัตว์เลี้ยงกินสารพิษเข้าไป ต้องทำอย่างไร?
สัตว์เลี้ยงกินสารเคมี หรือสารพิษเข้าไป เป็นอีกภัยเงียบที่อันตราย อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และเป็นอีกเคสที่พบได้บ่อยครั้งในแผนกฉุกเฉิน และหลายครั้งที่ตัวเจ้าของก็ไม่รู้ตัวว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองกำลังได้รับสารพิษ กว่าจะทราบก็สายเสียแล้ว บทความนี้ได้รวบรวมอาการที่เจ้าของสามารถสังเกตเห็น พร้อมแนวทางในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่สามารถทำได้ก่อนที่จะพาน้องๆมาโรงพยาบาลค่ะ
บทความนี้พูดถึงอะไรบ้าง
- อาการที่บงชี้ว่าสัตว์อาจได้รับสารพิษ
- วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถทำได้
- ขั้นตอนการรักษาสัตว์เลี้ยงที่กินสารพิษ
อาการที่บ่งชี้ว่าสัตว์อาจได้รับสารพิษ
อาการของสัตว์เลี้ยงหลังได้รับสารพิษสามารถเกิดได้ตั้งแต่ 30 นาทีแรก ไปจนถึงหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ได้รับ และทางที่สัมผัสสารพิษ เช่น การกินเข้าไป (เป็นกรณีที่พบบ่อยที่สุด), การดูดซึมผ่านผิวหนัง หรือ สัมผัสเข้าตา แต่โดยรวมแล้ว โดยอาการที่อาจสังเกตได้มีดังนี้
- น้ำลายไหลมากผิดปกติ
- อาเจียน ท้องเสีย (บางครั้งมีเลือดปน)
- ซึม ไม่อยากอาหาร
- ชัก เกร็ง หรือเดินเซ
- หายใจหอบ หายใจแรงผิดปกติ
- เหงือกซีด เขียว หรือม่วง
- ไม่สามารถลุกยืน หรือหมดสติ
หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการใน 7 ข้อนี้ ควรรีบนำสัตว์เลี้ยงมาพบสัตวแพทย์โดยทันที ซึ่งอาการอาจจะกว้างไปสักนิด แต่ถ้าหากสามารถระบุสารพิษที่สงสัยได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยและรักษาได้เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น หากสงสัยว่าสุนัขหรือแมวกินยาฆ่าแมลง ก็มักจะมีอาการ หายใจลำบาก น้ำลายไหลเยอะ และมักมีอาการทางระบบประสาท ม่านตาหดเล็ก เดินเซ หรือ กล้ามเนื้อสั่นกระตุกทั้งตัว ชักเกร็ง เป็นต้น ดังนั้นแนะนำให้ถ่ายรูปสารพิษที่ต้องสงสัย เก็บเศษอาหาร เศษเม็ดยา ซองบรรจุภัณฑ์มาด้วย เพื่อช่วยให้สัตวแพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำยิ่งขึ้น
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถทำได้ระหว่างพามาโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์
- ถ้าสัมผัสทางผิวหนัง รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก หลีกเลี่ยงการล้างใกล้ดวงตา จมูก หรือปาก เนื่องจากอาจทำให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น
- ถ้ากินเข้าไป ห้ามพยายามทำให้อาเจียนเองเด็ดขาด โดยเฉพาะในสัตว์ที่หมดสติ ชัก หรือทรงตัวไม่ได้ หรือสงสัยว่าสารที่กินเป็นกรด-ด่างรุนแรง เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ ผงซักฟอก และ สารระเหยต่างๆ เนื่องจากการพยายามทำให้อาเจียนผิดวิธีอาจทำให้สัตว์สำลัก ทำลายระบบทางเดินอาหารมากขึ้น และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
เมื่อเจ้าของพาสัตว์เลี้ยงมาถึงโรงพยาบาล ทีมสัตวแพทย์ของเราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่มีมาตรฐานและปลอดภัย เพื่อช่วยชีวิตสัตว์อย่างเร่งด่วน โดยทั่วไปจะเริ่มจาก
1. ประเมินอาการฉุกเฉิน (Triage) ตรวจวัดชีพจร อุณหภูมิ อัตราการหายใจ และการตอบสนอง ถ้าสัตว์เลี้ยงมีภาวะช็อก หมดสติ หรือชัก จะได้รับการพยุงอาการทันที เช่น ให้ออกซิเจน น้ำเกลือ และยากันชัก
2. สอบถามประวัติและวิเคราะห์สารพิษ ซักประวัติเพื่อหาว่าสัตว์เลี้ยงได้รับสารใด ปริมาณเท่าไร และเวลาใด ถ้าเจ้าของนำฉลากผลิตภัณฑ์หรือภาพถ่ายสารพิษมาด้วย จะช่วยในการเลือกวิธีการรักษาได้แม่นยำขึ้น
3. การล้างสารพิษ ในกรณีที่กินไปไม่นาน ภายใน 30-60 นาที อาจใช้ยากระตุ้นให้อาเจียนอยากถูกวิธี ให้ถ่านกัมมันต์ (Activated Charcoal) เพื่อดูดซึมสารพิษที่ยังหลงเหลือในระบบทางเดินอาหาร หรือ พิจารณาล้างกระเพาะอาหาร (Gastric lavage) ตามความเหมาะสม
4. การรักษาแบบประคับประคองและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สัตว์ที่ได้รับสารพิษมักแนะนำให้อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาลตลอด 24ชั่วโมง เพื่อให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด รวมถึงตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อประเมินการทำงานของตับ ไต และอวัยวะภายในต่อเนื่องในระยะยาว
ทั้งหมดนี้คือแนวทางการสังเกตอาการและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องรู้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมี อาการฉุกเฉินอื่นๆ ที่เจ้าของควรทำความเข้าใจ เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก
ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ พร้อมดูแลสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก
เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ของเรามี ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน
โดยทีมสัตวแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่มีมาตรฐานสากล ระบบตรวจวินิจฉัยเร่งด่วน พร้อมให้บริการ
เวลาเปิดให้บริการของแต่ละสาขา
- สาขาทองหล่อ (กรุงเทพฯ): เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- สาขาหลังสวน (กรุงเทพฯ): เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- สาขาเพชรเกษม (กรุงเทพฯ): เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 24.00 น.
- สาขาเชียงใหม่: เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- สาขาภูเก็ต: เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 22.00 น.